วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สะอึกบ่อย หากเราปล่อยไว้จะเป็นอะไรไหม

สวัสดีจ้า ครั้งนี้จะนำเนื้อหาสาระมาฝากกัน เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขอาการสะอึก สำหรับท่านใดที่มีปัญหาอาการสะอึกบ่อยๆ หรือสะอึกแล้วไม่หายสักที พยายามหลายๆ ทางก็ไม่หาย หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่า อาหารสะอึกที่เราเป็นแล้วไม่หาย หรือหายยาก จะเป็นอันตรายไหม หรือพอจะเป็นสาเหตุบ่งชี้ให้เราทราบได้หรือไม่ว่าเป็นอะไรกับร่างกายของเราหรือเปล่า ครั้งนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกัน อาการสะอึกโดยทั่วไปแล้วเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
- จากการหดตัวของกล้ามเนื้อ
- กะบังลมที่อยู่ตรงรอยต่อระหว่าง ช่องปอด และช่องท้องที่เกิดขึ้นเองได้โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด


แต่คาดว่าเกิดจากมี สิ่งมากระตุ้นเส้นประสาท 2 เส้น คือ Vagus Nerve และ Phrenic Nerve ซึ่งเป็นส่วนที่ เชื่อมระหว่างระบบประสาทกับระบบทาง เดินอาหารส่วนต้น และเสียงสะอึกที่เกิดขึ้น จะมาจากการหายใจออกขณะที่กะบังลม เกิดการกระตุกทันทีทันใด ทำให้เกิดเสียงดังของการสะอึก โดยลักษณะอาการแบ่งออก เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

  1. สะอึกช่วงสั้นๆ อาจเพียง 2-3 นาที เป็นการสะอึกช่วงสั้นๆ ที่ไม่มีอันตรายใดๆ
  2. สะอึกหลายๆวันติดกันเป็น อาการที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากมีสาเหตุมา จากโรคอื่นๆ เซ่น ความผิดปกติทางสมอง การเป็นโรคทางเดินอาหาร การอักเสบใน ซ่องท้องบริเวณกะบังลม
  3. สะอึกติดๆ กันหลายสัปดาห์อาจ เกิดจากโรคหลอดเลือดสมองตีบ เยื่อหุ้ม สมองอักเสบ พิษสุราเรื้อรัง รวมถึงอาการ ทางภาวะจิตใจ และผลกระทบจากการใช้ ยาบางชนิด
  4. สะอึกตลอดเวลา เป็นอาการร่วม ของผู้ป่วยอัมพาต

โดยส่วนมากผู้ป่วยที่มาหาหมอมักจะ สะอึกเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน เนื่องมาจากมีอาการผิดปกติทางสมองหรือเป็นอัมพาต ซึ่งหากปล่อยไว้นานจะเป็นอันตรายไต้ ถ้าหากสะอึกติดต่อกันนานก็ควรที่จะ พบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของการสะอึกว่าเกิด มาจากอาการของโรคใด โดยอาการสะอึกไม่ ถือว่าเป็นโรคแต่เป็นผลมาจากการเป็นโรคที่ เกี่ยวกับทางเดินอาหาร ดังนั้นหากสามารถ ทราบสาเหตุของโรค หมอจะได้ให้ยาก็ สามารถที่จะช่วยให้อาการสะอึกดีขึ้นได้

5 วิธีการหยุดสะอึกแบบเวิร์คๆ หากเป็นการสะอึกแบบสั้นๆ


  • 1. ใช้วิธีการกลั้นหายใจ
  • 2. การกลืนน้ำตาล
  • 3. การจิบนาส้มสายชูที่เปรี้ยวจัด
  • 4. การดมสารที่มีกลิ่นฉุนอย่างแอบโมเนีย
  • 5. การบีบกระตุ้นบริเวณหลังคอ 

มาถึงตรงนี้อ้อมขอฝากเว็บฯขายเสื้อผ้าออนไลน์ ชุดกันหนาว ชุดเดรส กระเป๋าไว้ในอ้อมอกอ้อมใจกันด้วยนะคะ

อ้างอิงจาก นิตยสาร: Health ฉบับ November 2010
วิธีทำให้ผู้ชายชอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น